ไจเกีย หัวหน้า กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
ถึงจะระบายอารมณ์กับเรเชลไปแล้ว แต่ก็ยังไม่หายหงุดหงิดอยู่ดี
มีดเล่มนั้น ต้องเอาคืนมาให้ได้
ข้าสั่งการให้หน่วยค้นหาในกิลด์สาขาหลักออกล่าแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เรื่องก็ยังเงียบ ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
ขณะที่ข้าตัดสินใจจะไประบายอารมณ์ในดันเจี้ยน
บีบีก็ส่งคนมาแจ้งข่าวเรื่องคาลิก้า
พี่สาวบาดเจ็บสาหัส น้องสาวหายตัวไปในสลัม คาลิก้าจึงยังค้นหาอยู่
ส่วนไอโรคจิต [โซ่อัคคี] กับ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน [ปราการเหล็ก] ยังคิดจะแย่งคาลิก้าของข้าไปอีก
ดี ดีเหลือเกิน แล้วพวกแกจะได้รู้กันว่าอำนาจของกิลด์ข้าเป็นยังไง
"ส่งฮีลเลอร์มือดีที่สุดไปที่กิลด์ [เวทกังวาน] แล้วส่งคนไปแจ้งคำสั่งข้าที่กิลด์สาขาหลัก ระดมพลทุกคนเข้าสลัม!!!"
"รับทราบครับท่านไจเกีย"
*****
เขตเมืองชั้นใน
บ้านเมืองในเขตนี้มีความเจริญและสะดวกสบายที่สุดสำหรับประชากรที่ไม่ใช่ขุนนาง
เป็นที่ตั้งของสำนักงานดูแลนักผจญภัยสาขาหลัก มีข้อมูลและภารกิจคำร้องทุกอย่างที่หาไม่ได้จากในสาขาย่อย
สาขาย่อยจะได้รับคำร้องง่ายๆ หรืองานจิปาถะที่ไม่มีความสำคัญจากสาขาหลักมาประกาศให้นักผจญภัยระดับล่างๆ มารับงานอีกที
ตัวเมืองจึงมีร้านค้าเยอะ ถนนสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน กิลด์ใหญ่จึงมักตั้งสาขาหลักกันที่นี่ ความปลอดภัยจึงสูงตามไปด้วย
และอาณาจักรนี้มีกฎว่าดันเจี้ยนทุกแห่งที่เกิดภายในเขตอยู่อาศัยจะต้องถูกกวาดล้างทันที
กิลด์หรือประชาชนที่ปกปิดเพื่อเก็บไว้ฟาร์มหรือเลี้ยงดูมัน จะมีความผิดโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
เพราะแบบนี้มอนสเตอร์ก็จะมีอยู่แค่ที่ภายนอกกำแพงเท่านั้น
ประชาชนที่อาศัยในกำแพงจึงยิ่งมั่นใจในความปลอดภัยและยอมจ่ายภาษีอย่างเต็มใจ
มันจึงเป็นวันปกติแสนธรรมดาของทุกคน
จนกระทั่ง
สองกิลด์ใหญ่เคลื่อนไหว
กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
ลูกกิลด์ทุกคนพร้อมสรรพาวุธครบมือราวกับจะไปทำสงครามกับอสูร เดินทางออกจากเมืองเป็นขบวนขนาดใหญ่
กิลด์ [โซ่อัคคี]
ระดมทาสเฉพาะพวกที่ยังแข็งแรงจากร้านทุกสาขาเกือบสามพันคน
เนื่องจากมีคนจำนวนมากแห่ออกจากเมืองไปในทิศทางเดียวกัน
สำนักงานจึงส่งคนไปสอบถามสาเหตุจากทั้งสองกิลด์ หลังได้รับคำอธิบาย พวกเขาก็ติดประกาศ
แต่กลับไม่ได้บอกความจริง ว่าทั้งสองกิลด์ไปเพื่อช่วยตามหาคน
แต่ติดประกาศไปว่า สองกิลด์ใหญ่ กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง] และ กิลด์ [โซ่อัคคี] กำลังสร้างผลงานด้วยการทำภารกิจกวาดล้างพวกกลุ่มอาชญากรในสลัม
ปั่นกระแสโดยไม่บอกว่าพวกเขากวาดล้างอาชญากรกลุ่มไหน
กิลด์พันธมิตรของทั้งสองกิลด์เมื่อได้ยินข่าวจึงส่งลูกกิลด์บางส่วนไปช่วยเพื่อคงสัมพันธ์อันดีไว้
เมื่อกิลด์ใหญ่หลายกิลด์ลงร่วมมือกันลงพื้นที่ในสลัม พวกกิลด์เล็กๆ จึงหวังอยากได้ส่วนแบ่งจากการจับกุมหรือกำจัดพวกที่ถูกสำนักงานหมายหัวมาขึ้นรางวัลบ้าง
กิลด์ที่เข้าร่วมจึงมีมากกว่า 30 กิลด์
จากนั้นกิลด์อริที่ไม่ถูกกัน กับสองกิลด์ใหญ่ รวมถึงกิลด์พันธมิตร จึงออกโรงเพื่อหวังชิงตัดหน้าเอาความดีความชอบ
ข่าวจึงถูกใส่สีตีไข่จนกลายเป็น การร่วมมือครั้งใหญ่ของกิลด์ต่างๆ เพื่อกวาดล้างอาชญากรทุกรูปแบบในสลัม
พวกขุนนางได้ยินข่าวและอยากได้หน้า จึงสั่งให้กิลด์ที่หนุนหลังหรือกิลด์ในสังกัดของตนเองเข้าไปในสลัมด้วย
*****
คาลิก้า เนฮิว
ฉันบุกไปหาเอลด้าในแหล่งของพวกโจรลักเด็กเท่าที่พอจำได้
บ้านหลังที่สองที่ฉันบุกเข้าไปค้น มีคนเฝ้าตามจำนวนปกติ
ก่อนที่พวกนั้นจะปะทะกับทหารน้ำแข็งดาบโล่ พลธนูของฝ่ายเราก็เปิดฉากยิงใส่ขาจนพวกมันล้มลง จากนั้นพลหอกก็แทงใส่แขนข้างที่จับอาวุธ
จังหวะที่ฉันกำลังจะถาม คนนึงในกลุ่มก็ตะโกนกลับไปในบ้าน
"ออกมาฆ่าพวกมันสักทีสิวะ จัดการนังเด็กนั่น"
แล้วชายฉกรรจ์ 2 คนก็พุ่งออกมา พวกเขาสวมแค่กางเกงที่ทั้งเก่าทั้งขาด ปลอกเหล็กบนคอแสดงถึงความเป็นทาส
ถึงจะไม่อยากตาย แต่ทาสอย่างพวกเขาขัดคำสั่งไม่ได้
พลดาบโล่สองนายเข้ามาขวางไว้ทันที
ทั้งสองดูจะสู้เก่งกว่าพวกคนเฝ้าเด็กเสียอีก แต่อาวุธกลับเป็นดาบเก่าที่ใบมีดบิ่นหมดแล้ว ต่างกับพวกคนเฝ้าที่อุปกรณ์ดูดีกว่า
ฉึก!
"อ้ากกกกกกก!"
ฉันหันไปมองต้นเสียง คนกรีดร้องคือคนที่สั่งทาส เขาโดนพลหอกแทงเข้าที่หัวใจ
พลดาบโล่ที่รับมืออยู่จึงปัดการโจมตีทั้งสองคนด้วยโล่ จากนั้นก็เตะตัดขาจนล้มลงไป ส่วนอีกคนโดนถีบใส่ท้องจนล้มกลิ้ง
พลหอกหันมายกนิ้วโป้งให้ฉัน
ถึงจะไม่ได้สั่งให้ทำ แต่นี่มันทหารน้ำแข็งของคุณเลร่านี่เนอะ คงใส่คำสั่งอะไรลงไปมั้ง
ฉันจึงได้แต่พยักหน้ากลับไปให้เขา
ทาสทั้งสองคนหลังลุกขึ้นมาได้ก็ทิ้งดาบแล้วก้มกราบฉันในทันที
"ขออภัยด้วยครับนายหญิง เราขัดคำสั่งเจ้านายคนก่อนไม่ได้ อภัยให้พวกเราด้วยเถอะครับ"
"...หือ!?"
ฉันจึงหันไปถามพวกคนเฝ้าเด็กและได้รับคำตอบมาว่า ถ้าเจ้านายของทาสถูกใครฆ่า สิทธิการเป็นเจ้านายจะถูกส่งต่อไปยังคนนั้นทันที
ส่วนทาสทั้งสองก็ตอบเสริมว่า หลังเจ้านายเก่าตายจะมีเสียงส่งเข้ามาในหัวว่าใครคือเจ้านายคนใหม่
ทาสจึงไม่มีวันได้เป็นอิสระ แต่ก็มีวิธีหลุดพ้นหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือให้เจ้านายไปทำเรื่องเปลี่ยนสถานะกับพ่อค้าทาส
ประเด็นนี้เข้าใจแล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจ คือ คนที่ฆ่าเป็นพวกทหารน้ำแข็ง แต่ทำไมเจ้านายถึงเป็นฉัน ไม่ใช่คุณเลร่า
"รีบลุกขึ้นเถอะ แล้วไปพาเด็กที่ถูกจับไว้ออกมาที"
"ทันทีเลยครับ นายหญิง"
ทาสทั้งสองรีบไปเอาตัวเด็กมาให้ฉันดู ในกลุ่มนี้ก็ไม่มีเอลด้าอีกแล้วฉันจึงสั่งให้ปล่อยพวกเด็กไป
แล้วหันไปถามพวกเฝ้าเด็กด้วยคำถามเดียวกันว่าเคยเห็นเอลด้าไหม
และก็เหมือนเดิมพวกมันไม่รู้
"งั้นบ้านพักเด็กหลังอื่นอยู่ที่ไหนบ้าง"
คำถามนี้พวกมันก็ไม่รู้อีก พวกมันบอกว่ามีหน้าที่แค่เฝ้าที่นี่ ส่วนเด็กจะมีคนสนิทของเจ้านายมารับไปทุกคืน พวกเขาจึงไม่รู้อะไรเลย
งั้นก็ไปถามเอาตามทางละกัน
ฉันสั่งเดินหน้าค้นหารอบบริเวณแล้วมุ่งตรงไปข้างหน้าต่อ โดยมีทาสชายสองคนยึดอุปกรณ์กับเสื้อผ้าของคนเฝ้าเด็กแล้วตามฉันไปหาเอลด้าด้วย
ส่วนพวกเฝ้าเด็กก็ถูกพลลอบสังหารแอบฆ่าโดยที่ฉันไม่รู้เหมือนเดิม
ระหว่างทางฉันถามทุกคนที่เจอเรื่องเอลด้า
ทุกคนไม่รู้เรื่องเอลด้าเลย แต่มีบางคนพอจะรู้สถานที่จับเด็ก
ฉันไล่บุกค้น หาเอลด้า ไม่เจอก็ปล่อยเด็ก แล้วก็ได้ทาสเพิ่มขึ้น ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนเลยหลังที่ 10 ก็ยังไม่เจอเอลด้า
แต่เพราะมีทาสเข้าร่วม จึงขยายขอบเขตการค้นหาได้กว้างขึ้น
ฉันที่ร้อนรนจึงเริ่มจงใจไม่เลี่ยงเส้นทางอันตราย
ตอนที่เข้าเขตของพวกกลุ่มอันธพาล [หมาบ้า] ก็เกิดการปะทะขึ้นครั้งใหญ่
พวกนั้นจำนวนคนเยอะกว่าเราหลายเท่าและไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น
ตัวหัวหน้าก็เอาแต่ประกาศว่าจะเอาฉันไปทำเมียให้ได้
พลทหารน้ำแข็งก็ดูคลั่งขึ้นมา
แล้วก็เปิดฉากสู้กัน
พวกหมาบ้าวิ่งกรูกันเข้ามา พวกหน้าสุดโดนพลธนูยิงล้มตายไปหลายคน
แต่พวกมันก็ไม่กลัวกันเลยสักนิด หลังฝ่าธนูมาได้ก็เจอกับพลหอกและโล่หยุดเอาไว้
ต่างฝ่ายต่างปะทะกันชุลมุน หิมะถูกราดด้วยเลือดสีแดงสด เพราะจำนวนคนเยอะกว่ามันจึงตีวงล้อมพวกเรา
ส่วนทาสในกลุ่มตอนนี้ทาสมีทั้งชายหญิงแล้ว ทุกคนรีบกลับมาล้อมรอบตัวฉันแล้วคอยจัดการกับพวกที่หลุดมาได้
หลังจากถูกโจมตีอย่างหนักและซ้ำๆ กัน โล่ของพลดาบโล่ก็เริ่มมีรอยร้าว ส่วนลูกธนูก็หมดจนต้องเข้าสู้ระยะประชิดด้วยหมัด
สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดี แต่ไม่นานพวกเราก็ได้เปรียบ จำนวนของฝั่งนั้นลดลงไปเร็วมาก สุดท้ายก็โดนเก็บกวาดจนหมด
ส่วนสาเหตุคือแนวหลังของพวกมันถูกใครก็ไม่รู้ลอบโจมตี
พวกมันที่ต้องรับศึกสองด้านจึงแพ้ในที่สุด หลังหัวหน้ากลุ่มถูกสังหาร ทาสที่ยังรอดชีวิตก็รวมเข้ากับกลุ่มฉัน
กลายเป็นว่าฉันมีทาสมากกว่า 50 คน ไปแล้ว
พลธนูเก็บลูกธนูคืนจากศพ ส่วนทาสทุกคนฉันก็ให้ยึดเสื้อผ้ากับอุปกรณ์จากศพมาใช้ได้ตามใจชอบ
เสื้อผ้าจะใส่หนากี่ชั้น ฉันก็อนุญาตเพราะฉันรู้ดีว่าอากาศหนาวๆ แบบนี้ เสื้อแบบที่พวกเขาใส่อยู่ไม่ช่วยอะไรเลย
ส่วนชุดของฉันทั้งอุ่นและนุ่มสบายดีอยู่แล้ว
ฉันให้ทาสผู้หญิงที่สู้ไม่ได้ถือพวกเสื้อผ้าเอาไว้ ตอนเจอเอลด้าจะได้ให้เธอสวม
ส่วนยารักษาแผลทั่วไปที่เจอจากการค้นศพของพวกกลุ่ม [หมาบ้า] ฉันก็ให้ทาสที่ได้รับบาดเจ็บใช้ไปเลย
พวกเขาจึงกราบฉันทั้งน้ำตาและบอกว่าไม่เคยมีใจดีกับทาสเท่านายหญิงแบบฉันมาก่อน
ฉันรีบบอกปัดและให้ลุกขึ้นเพราะไม่ชินกับเรื่องพวกนี้
"คุณหนูครับ! ได้ข่าวว่าท่านตามหาเด็กผู้หญิงผมดำใช่มั้ยครับ"
ตอนนั้นเองที่มีขอทานรุ่นลุงตะโกนพร้อมกับโบกมือให้ฉัน
ฉันจึงสั่งให้ปล่อยเขาเข้ามา
"ใช่ค่ะ คุณลุงเห็นเอลด้าเหรอคะ"
ตูม!
"ฮ่าๆๆๆ ปลิวแล้ว! ปลิวไปแล้ว!"
เสียงตะโกนบ้าคลั่ง เกิดขึ้นด้านหน้าพร้อมกับทหารน้ำแข็งที่ปลิวกระเด็นขึ้นไปบนอากาศ
"กลายเป็นน้ำแข็งบดไปซะ ฮ่าๆๆๆๆๆ"
เจ้าของเสียงตะโกนและทำร้ายพลทหารน้ำแข็งด้วยค้อนยักษ์ คือ ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตามอมแมม ผมเผ้ารุงรัง
แม้ทหารน้ำแข็งจะเข้ารุมก็ยังโดนค้อนเธอเหวี่ยงทุบจนกระเด็น
"นั่นมันหญิงบ้าจอมทุบ"
ลุงขอทานอุทานด้วยความตกใจและระหว่างที่ทุกคนสนใจหญิงบ้าจอมทุบ
ลุงขอทานก็ชักมีดฟันใส่ฉันทันที แต่กลับโดนมีดปริศนาพุ่งเข้าปักหลังหัว ก่อนจะได้ปาดคอฉัน
จากนั้นพวกทาสก็เข้ามารุมยำลุงคนนั้นจนเละ
"นายหญิง ไอเจ้านี่คงจะเป็นขอทานจอมเชือดแน่ๆ"
ฉันก็เคยได้ยินชื่อเสียงมาเหมือนกัน เป็นคนที่ปลอมตัวเป็นขอทานเพื่อให้เหยื่อตายใจ พอสบโอกาสก็ใช้มีดฆ่าอีกฝ่าย
เป็นฆาตกรโรคจิตที่สนุกกับการเฉือนร่างกายอีกฝ่าย จนกลายเป็นอาชญากรมีชื่อ ว่า ขอทานจอมเชือด
ส่วนหญิงบ้าจอมทุบ รู้แค่ว่าเป็นคนสติไม่ดีที่มีกำลังมหาศาล
ตั้งแต่อยู่ในสลัม ฉันไม่เคยมีความคิดเข้าถิ่นอันตรายมาก่อน เพราะรู้ว่าโอกาสตายสูงมาก แต่ไม่นึกเลยว่าจะอันตรายขนาดนี้
ที่เชื่อใจคนในสลัมไม่ได้อยู่แล้ว ก็ยิ่งหนักขึ้นไปอีก
พลทหารน้ำแข็งสู้แรงหญิงบ้าจอมทุบไม่ไหว แต่สุดท้ายก็โดนพลธนูรุมยิงจนร่างพรุนเหมือนเม่นเพราะเธอไวไม่พอปัดลูกธนู
ด้านทหารน้ำแข็งตอนนี้เริ่มเกิดความเสียหาย มีรอยร้าวตามตัว บางตัวก็แขนหัก หัวหลุด
ฉันค่อยไปก้มหัวขอโทษคุณเลร่าทีหลัง ตอนนี้ต้องรีบหาเอลด้าต่อแล้ว
ตอนนั้นเองที่มีทาสชายหนุ่มคนนึงเดินก้มหัวเข้ามา
"นะ นายหญิงครับ คือ..."