เอลด้า เนฮิว
"หนูรู้จักบ้านของพี่น้องตระกูลเนฮิวไหม"
เขายิ้มและพูดอย่างเป็นมิตร แตกต่างจากทุกคนที่เคยคุยด้วยกับหนูเลย
"รู้จักดีเลยค่ะ"
จากนั้นชายคนนี้ก็หลอกถามว่ารู้จักครอบครัวของฉันจริงไหม
ฉันตอบไปตามตรงพร้อมกับแสดงสีหน้าน่าสงสาร
"แล้วคนสุดท้ายล่ะ"
"เด็กอ่อนแอที่ต้องการความช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากพวกครอบครัวไร้ค่า นามนั้นคือ เอลด้า เนฮิว หรือก็คือ หนูเองค่ะ"
"ช่วยเลิกพูดเล่นด้วย"
เด็กในสลัมที่ทำท่าทางน่าสงสารและขอความช่วยเหลือโดยพูดให้ตัวเองน่าสงสาร คนที่รู้ทัน เขารู้กันทั้งนั้นว่าตอแหลทั้งเพ
และชายตรงหน้าก็ดูเหมือนคนรู้ทัน พอเอาความจริงมาพูด มันเลยไม่เชื่อว่าหนูคือเอลด้า
จากนั้นมันก็เล่นจิตวิทยา ลดเงินลง ซึ่งหนูก็เล่นไปตามบท
บทคนตอแหลที่อยากได้คนรับไปเลี้ยง
"1 เหรียญทองแดง"
เมื่อมันพูดคำนั้น หนูก็แสร้งทำหน้าเครียดแล้วรีบตะโกนออกไป
"ก็ได้! จะบอกทางให้"
และใช้สันดานของคนในสลัม เงินมา ข้อมูลหลุด
หนูยื่นมือออกไปรับเหรียญมาเก็บไว้ในช่องในเสื้อที่พี่คาลิก้าทำไว้ให้
คนพวกนี้ถ้าหนูโลภบอกข้อมูลแต่แรกเพื่อเอา 3 เหรียญ มันก็จะคิดว่าหนูโกหก จึงไม่สามารถหลอกได้
ยังไงก็จะไปหาเด็กอยู่แล้วนี่เนอะ ก็แวะไปทำดีช่วยพวกเธอหน่อยละกัน
เลยบอกเส้นทางไปสถานที่กบดานของพวกแก๊งลักเด็กกับจุดสังเกตไป
ถ้าถามอย่างอื่นก็อาจจะช่วยบอกอยู่หรอก แต่ถ้าเกี่ยวกับครอบครัว หนูไม่มีวันปล่อยให้ไปเจอพวกพี่ๆ แน่ ถ้ายังไม่แน่ใจว่ามาดี
ผลลัพธ์คือมันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และนั่นแสดงว่าหลอกได้สำเร็จ
หนูเลยถือถังไม้แล้วเดินไปอีกเส้นทาง อ้อมกันไว้ก่อนเผื่อเจ้าพวกนั้นจะตามมา
โดยดึงผ้าที่อุดรูรั่วทยอยปล่อยน้ำทิ้งทีละนิดเพื่อให้ถังเบาลง
เพื่อไม่ให้เกิดเสียงน้ำกระทบพื้นจึงปล่อยไหลลงขา
คนในสลัมน่ะหูดีนะ แปลว่าคนที่สะกดรอยตามมาไม่เก่งเท่าไหร่
ประมาณ 2 คนได้มั้ง เพื่อจับเด็กคนเดียว งั้นก็ไม่ได้มาดี
หนูเร่งฝีเท้าขึ้นนิดนึงและคอยฟังเสียงตลอดเวลา
ถ้าพวกมันพุ่งเข้ามาหนูก็จะทิ้งถังในทันที
โชคดีที่มันไม่ได้พุ่งเข้ามาจนถึงจุดหมายที่หนูต้องการ
หนูจึงสามารถเหวี่ยงถังไม้เข้าไปในประตูบ้านหลังที่เล็งไว้ ประตูทำจากผ้า ถังเลยผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ
บ้านคนในสลัมแคบยังกับรูหนู คนในบ้านหลังนั้นจึงสะดุ้งตื่นและร้องเสียงหลงเพราะโดนถังตกใส่
"โอ๊ย! อะไรวะ!"
และหนูก็ตะโกนเข้าไป
"เล่นมันเลย!"
เสร็จแล้วก็วิ่งหนีเต็มฝีเท้า
เจ้าของบ้านถือท่อนเหล็กแล้วพุ่งออกมา
"ใครมันอยากตายวะ!"
พวกที่สะกดรอยจึงถูก เจ้าบ้ายวซ อันธพาลเจ้าถิ่นเล็กๆ แถวนี้ ที่ชอบไล่หาเรื่องคนอ่อนแอไปทั่วหยุดเอาไว้พอดี
ระหว่างหนีหนูก็พยายามฟังเสียงตลอดเวลา นอกจากเสียงต่อสู้ของเจ้ายวซ ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งตามหนูมา
เหลือแค่คนเดียว
หนูพยายามวิ่งลัดเลาะไปตามซอยหรือลอดรูที่เด็กเท่านั้นผ่านได้
ก็อยากจะซ่อนอยู่เงียบๆ แต่เจ้านั่นดันใช้เวทไฟเผาไล่หลังมา เลยแอบไม่ได้
เจ้านั่นหัวเสียที่ต้องอ้อมมาจับหนู บางครั้งเลยยิงเวทไฟดักหน้า
ซึ่งหนูก็ไม่หลบวิ่งฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปตรงๆ แม้จะโดนเผาจนแสบไปทั้งตัว ก็ดีกว่าหยุดหรืออ้อมจนมันตามมาทัน
ใกล้หมดเวลาแล้ว
ร่างกายหนูออกแรงนานไม่ได้ หัวใจเริ่มเต้นช้าลง การหายใจเริ่มติดขัด
จนถึงบ้านอีกหลังที่เป็นเป้าหมายของหนู
หนูพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตะโกนออกมา
"กิลด์มาเล่นพวกแกแล้วววววว!"
ตูม!
"โอ๊ยยย!"
หนูโดนลูกไฟระเบิดเข้ากลางหลังจนตัวปลิวกระเด็นเข้าไปในบ้านร้างอีกหลังนึง
ไฟลูกนั้นเผาหลังของหนูจนส่งกลิ่นเนื้อไหม้
หนูกัดนิ้วตัวเองเพื่อข่มกลั้นไม่ให้กรีดร้องออกมา
แล้วก็ถึงขีดจำกัดแล้ว
หายใจ... ไม่ออก...
ต้องรีบซ่อน หนูออกแรงคลานทั้งที่หัวใจเหมือนโดนบีบรัดแน่นมาก สติเริ่มเบลอจนมองเห็นไม่ชัด
หนูคลานเข้าไปในห้องขับถ่ายของบ้าน มันเป็นห้องแคบพอดีตัวที่ใช้ไม้กั้นแล้ววางถังไว้ ถ่ายจนเต็มก็เอาไปเททิ้งในคลอง
ยิ่งเป็นบ้านร้างก็ยิ่งมีคนมาถ่ายทิ้งไว้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบเอาไปเททิ้ง
หนูดึงถังที่เต็มไปด้วยของเสียและหนอนแมลงวันราดใส่ตัวเองจนมิดแล้วเข้าไปนอนขดซ่อนอยู่ด้านใน
ยอมตายทุเรศแบบนี้ ดีกว่าโดนทรมานแล้วบอกที่อยู่ของพี่สาวไป
หนูรักพี่ๆ นะคะ พี่เทียร่า พี่คาลิก้า
น้ำตาไหลออกมาพร้อมกับเสียงหัวใจที่หยุดเต้นไป
*****
คาลิก้า เนฮิว
รถม้าผ่านประตูเมืองเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยที่ยามเฝ้าขอแค่ให้เราเปิดหน้าต่างแล้วมองส่องเข้ามา
ถึงจะตกใจและมองฉันตาค้าง แต่ก็ไม่แม้แต่จะสอบถามหรือตรวจค้นอะไรเลย
แถมยังบอกชื่อกับที่อยู่บ้านของพวกเขา พร้อมกับบอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้มาหาได้ทุกเมื่อ
ฉันได้แต่ยิ้มแห้งและโบกมือให้ก่อนจะปิดหน้าต่างลงอย่างขนลุก
ไม่ชินเลยสักนิด กับการถูกปฏิบัติดีๆ แบบนี้
รถม้ามุ่งหน้าไปถึงหน้าสลัม ฉันเตรียมจะลงแต่คุณเลร่ากลับยังไม่ตื่น
เป็นม้าที่หันหัวมามองฉัน แล้วพยักหน้าไปทางสลัม
ฉันจึงรู้ว่ามันต้องการให้ฉันบอกทาง
"ตรงไปก่อนเลยค่ะ"
ม้าน้ำแข็งก็ไปตามทางที่ฉันบอกเป๊ะๆ
โห ม้าน้ำแข็งฉลาดมาก
ด้วยความเร็วรถม้า ไม่นานก็ใกล้ถึงบ้าน
ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่เช้า แต่แถวซอยบ้านฉันกลับมีกองไฟลุกโชนจนสว่าง แถมยังได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว
ฉันเผลอกำหมัดแน่นและตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว
"เลี้ยวเข้าซอยนี้เลยค่ะ!"
พอรถม้าเลี้ยวเข้าซอย ฉันจึงได้รู้ว่าต้นเพลิงที่ว่า มาจากบ้านของฉัน
ฉันรีบจับคุณเลร่าให้นั่งพิงอีกฝั่งแล้วรีบออกจากรถตรงไปที่บ้าน
"พี่เทียร่า!"
กำลังจะขอร้องว่าอย่าให้พี่เทียร่าติดอยู่ในนั้น
แต่ในกองเพลิงฉันเห็นกับตา ว่ามีคนกำลังดิ้นทุรนทุรายส่งเสียงกรีดร้องเหมือนพี่เทียร่าอยู่
"่พี่เทียร่าาาาาาาาาาาาาาาา!"
ฉันวิ่งฝ่ากลุ่มคนพุ่งเข้าไปในกองไฟอย่างไม่คิดชีวิต
ฟู่มมมม!
แต่ยังไม่ทันถึง เปลวไฟก็ถูกน้ำแข็งกลืนกินจนดับมอดไปซะก่อน
ฉันวิ่งเข้าไปกอดพี่เทียร่าที่ถูกเผาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมทันทีที่น้ำแข็งละลายหายไปและตะโกนเรียกเธอไม่หยุด
"ไม่นะ! พี่เทียร่า! ตื่นสิพี่! หนูกลับมาแล้ว! พี่คะ! ตื่นหน่อย ตื่นสิคะพี่! พี่เทียร่า! ตอบหนูหน่อย! พี่เทียร่า! อย่าทิ้งหนูไปนะ! หนูขอร้อง!"
ฉันรีบเอานิ้วอังจมูก แต่แทบสัมผัสไม่ได้ว่ามีลมหายใจออกมา
"ไม่ไหว สาหัสเกินไป"
คุณเลร่าที่โผล่มาอยู่ข้างๆ เธอพูดพลางส่ายหน้าอย่างหนักใจ
"ชะ ช่วยพี่หนูด้วยค่ะ! คุณเลร่า! นะคะ! จะให้ทำอะไรหนูก็ยอม! ได้โปรดเถอะค่ะ! ฮือๆๆๆ"
น้ำตาฉันไหลไม่หยุด
"ทำได้แค่ยื้อสภาพตอนนี้นะ เพราะถ้าไม่ใช่ฮีลเลอร์ [แรงค์ S] หรือ ยาอีลิกเซอร์ที่หาได้จากในดันเจี้ยน 100 ชั้นขึ้นไป ก็ไม่มีทางรักษาเธอคนนี้ได้แล้ว"
"ทำค่ะ! ขอร้องล่ะค่ะ! ช่วยยื้อชีวิตพี่ให้ทีค่ะ!"
ฉันขอร้องทั้งน้ำตา คุณเลร่าจึงพยักหน้า
"รีบวางเธอไว้แล้วถอยออกมา"
ฉันรีบวางพี่เทียร่าอย่างแผ่วเบา ทั้งที่ไม่อยากปล่อยมือเพราะดูเธอจะหยุดหายใจไปได้ทุกเมื่อ แต่ฉันเชื่อใจคุณเลร่า
"ศูนย์สัมบูรณ์"
พี่เทียร่าถูกพลังเวทสีฟ้าทรงพลังห่อหุ้มทั่วทั้งร่าง ไม่นานพี่เทียร่าก็ถูกแช่แข็งจนขาวไปทั้งตัว
"โลงศพน้ำแข็ง"
คุณเลร่าสร้างโลงน้ำแข็งดูหรูหราสวยงามขึ้นมาหุ้มปกป้องพี่เทียร่าให้อีกหนึ่งชั้น
"ไม่ต้องห่วงนะ เธอจะยังมีชีวิตอยู่จนกว่าจะคลายเวทศูนย์สัมบูรณ์ออก ส่วนโลงศพน้ำแข็ง ถ้าไม่ใช่ไฟจากเวทระดับสูงก็มิอาจละลายมันได้"
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ"
ฉันก้มลงกราบคุณเลร่าอย่างไม่อายใคร ก่อนจะฉุกใจคิดถึงเอลด้า
ฉันรีบมองไปที่ซากบ้าน ดูไม่มีศพคนไหนอีกแล้ว ฉันจึงหันไปหาพวกมันที่นั่งดูพี่เทียร่าถูกเผาหน้าตาเฉย
พวกนั้นถูกคุณเลร่าแช่แข็งไปหมดแล้ว ขยับได้เพียงสายตา
"ทำไมพวกแกทำกับพี่ฉันแบบนี้! แล้วเอลด้าอยู่ที่ไหน!"
ฉันกำหมัดด้วยความโกรธ ทั้งที่พวกเราไม่เคยทำร้ายหรือหาเรื่องใครก่อน
แต่ทำไมคนพวกนี้ต้องทำเรื่องโหดร้ายกับครอบครัวฉันด้วย